เมื่อใช้งานอุปกรณ์เคลือบแก้ว ต้องปฏิบัติตามข้อควรระวังดังต่อไปนี้:

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีเครื่องมือโลหะหรือวัตถุแข็งตกลงไปในตัวถัง เพราะแม้การกระแทกเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ผิวเคลือบแก้วบิ่นหรือร้าวได้
• ห้ามเติมของร้อนลงในถังที่เย็น หรือเติมของเย็นลงในถังที่ร้อน การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดความเค้นภายในและทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์ลดลง
• เมื่อใช้งานถังที่มีแจ็กเก็ต ต้องเพิ่มแรงดันและอุณหภูมิอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มต้นด้วยการจ่ายไอน้ำที่ประมาณ 0.1 MPa และคงไว้ 15 นาทีเพื่อให้ถังอุ่นอย่างทั่วถึง จากนั้นจึงค่อยเพิ่มแรงดันและอุณหภูมิทีละขั้นจนถึงระดับที่ใช้งานปกติ โดยทั่วไปแรงดันไม่ควรเพิ่มเกิน 0.1 MPa ต่อ 10 นาที
• การให้ความร้อนและความเย็นต้องอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยเสมอ อุปกรณ์เคลือบแก้วของเราออกแบบให้ใช้งานในช่วงอุณหภูมิ 0–200 ℃ ทนช็อกความร้อนได้ 120 ℃ และทนช็อกความเย็นได้ 110 ℃ หากจำเป็นต้องใช้งานนอกเหนือขอบเขตนี้ ต้องระบุไว้ในสัญญาการสั่งซื้อเพื่อที่เราจะสามารถออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานนั้น
• ห้ามให้กรดเข้าไปในแจ็กเก็ตโดยเด็ดขาด เพราะกรดจะทำปฏิกิริยากับเหล็กที่อยู่ใต้ผิวเคลือบแก้ว ทำให้เกิดก๊าซไฮโดรเจน ซึ่งอาจทำให้ผิวเคลือบแก้วเสียหายและล้มเหลวได้
• หากวาล์วระบายหรือท่อเกิดการอุดตัน ให้แก้ไขด้วยความระมัดระวังโดยใช้เครื่องมือที่ไม่ใช่โลหะ ห้ามใช้การกระแทกวาล์วหรือท่ออย่างเด็ดขาด
• ห้ามใช้เครื่องมือโลหะทำความสะอาดภายในถัง คราบหรือสารตกค้างที่ผิวด้านในต้องทำความสะอาดทันทีและอย่างทั่วถึงเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผิวเคลือบแก้ว